โครงการลดสารพิษสารเคมีโดยใช้สมุนไพรรางจืด
กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปลาบ่า จังหวัดเลย ปีงบประมาณ ๒๕๕๗
สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น ตำบลปลาบ่า เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากกว่าร้อยละ ๘๐ ของพื้นที่ทั้งหมดซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ทำนาทำไร่ ทำสวน รวมไปถึงเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จากผลการสุ่มตรวจหาสารเคมีในเลือด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๕ หมู่ ๑,๒,๕ ตำบลปลาบ่า จำนวน ๓๗๒ คน พบว่า ผลเสี่ยง ๑๕๕ คน และผลไม่ปลอดภัย ๘๐ คน ซึ่งมีค่าสูงมาก
จากการศึกษาของสถาบันต่างๆ ในการใช้รางจืดในการขับสารพิษออกจากร่างกายซึ่งส่วนมากพบว่าสมุนไพรรางจืดมามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้
ดังนั้น กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปลาบ่าจึงได้เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวและได้จัดทำโครงการสำรวจความเสี่ยงของกลุ่มเกษตรกรจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และศึกษาผลของการใช้สมุนไพรรางจืดในการขับสารพิษออกจากร่างกาย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ขึ้น เพื่อทราบสถานการณ์ความเสี่ยงของการใช้และได้รับสารเคมีดังกล่าว รวมถึงขยายผลการศึกษาการใช้สมุนไพรรางจืดในการขับสารพิษออกจากร่างกายในชุมชนและหมู่บ้านอื่นๆ ต่อไป
วัตถุประสงค์
๒.เพื่อให้ความรู้แก่กลุ่มเกษตรกรที่มีระดับสารเคมีในร่างกายระดับมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย
๓.เพื่อศึกษาผลของการใช้สมุนไพรรางจืดในการขับสารเคมีออกจากร่างกาย
พื้นที่ดำเนินการ
หมู่ที่ ๑,๒,๕ ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
วิธีดำเนินการ
๒.จัดทำแผนงานโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ
๓.สำรวจความเสี่ยงของกลุ่มเกษตรกรและเจาะเลือดตรวจหาสารเคมีในร่างกาย
๔.ประชุมกลุ่มเกษตรกรที่มีสารเคมีในร่างกายระดับมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน ๑๐๐ คน
๕.ประชุมติดตามผลการปรับพฤติกรรมและการใช้สมุนไพรรางจืดในการขับสารเคมีออกจากร่างกายหลังการอบรม ๓๐ วัน
๖.สรุปผลโครงการและจัดทำเอกสารเสนอผู้บริหารและผู้สนับสนุนงบประมาณ
๗.เผยแพร่ผลการดำเนินงานผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในพื้นที่และประประชาชนทั่วไป
๘.สรุปและประเมินผลโครงการ
ระยะเวลาดำเนินการ
มิถุนายน ๒๕๕๗ – กันยายน ๒๕๕๗
ผลที่คาดว่าจะได้รับ